มุมสมาชิก

สาระน่ารู้เกี่ยวกับสมาชิก

สมาชิกของบริษัทข้อมูลเครดิต

บริษัทข้อมูลเครดิตมีสมาชิกเป็นนิติบุคคลประกอบด้วยสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจเป็นตัวกลางในการจัดหาสินเชื่อที่บริษัทข้อมูลเครดิตรับเข้าเป็นสมาชิก

สถาบันการเงิน ได้แก่

1. ธนาคารพาณิชย์

2. บริษัทเงินทุน

3. บริษัทหลักทรัพย์

4. บริษัทเครดิตฟองซิเอร์

5. บริษัทประกันวินาศภัย

6. บริษัทประกันชีวิต

7. นิติบุคคลที่ให้บริการบัตรเครดิต

8. นิติบุคคลที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการทางการเงิน

9. นิติบุคคลอื่นที่ประกอบกิจการให้สินเชื่อเป็นทางการค้าปกติตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิตประกาศกำหนด ได้แก่ บริษัทที่ประกอบธุรกิจเช่าซื้อและหรือธุรกิจลิสซิ่ง บริษัทบริหารสินทรัพย์ การเคหะแห่งชาติ นิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจการให้สินเชื่อส่วนบุคคล นิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า นิติบุคคลผู้ประกอบธุรกิจแฟ็กเตอริง นิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเภทการเป็นตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า สหกรณ์และชุมนุมสหกรณ์ นิติบุคคลเฉพาะกิจที่ประกอบธุรกรรมการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ และนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ

ผู้ประกอบธุรกิจเป็นตัวกลางในการจัดหาสินเชื่อ ได้แก่

1. ธุรกิจที่ให้บริการระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์สำหรับธุรกรรมสินเชื่อระหว่างบุคคลกับบุคคล ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ 5 แห่งประกาศคณะปฎิวัติฉบับที่ 58 ว่าด้วยธุรกิจระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์สำหรับธุรกรรมสินเชื่อระหว่างบุคคลกับบุคคล

2 . ธุรกิจที่ให้บริการด้านการเสนอขายหุ้นกู้ผ่านระบบคราวด์ฟันดิง ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนเกี่ยวกับการเสนอขายหลักทรัพย์ผ่านระบบคราวด์ฟันดิง

การส่งข้อมูลของสมาชิกบริษัทข้อมูลเครดิต

สมาชิกทุกรายมีหน้าที่ส่งข้อมูลของลูกค้าสินเชื่อของตนให้แก่บริษัทข้อมูลเครดิตตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิตประกาศกำหนดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ. 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หากสมาชิกฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย เช่น การไม่ส่งข้อมูลให้บริษัทข้อมูลเครดิต มีโทษปรับไม่เกิน 5 แสนบาทและมีค่าปรับรายวันอีกไม่เกินวันละ 1 หมื่นบาทจนกว่าจะปฏิบัติถูกต้อง หรือกรณีที่สมาชิกรู้ว่าข้อมูลที่ส่งให้บริษัทข้อมูลเครดิตไม่ถูกต้องแต่สมาชิกมิได้แก้ไขและส่งข้อมูลที่ถูกต้องให้บริษัทข้อมูลเครดิต อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายที่กำหนดให้สมาชิกส่งข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยอยู่เสมอ ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 3 แสนบาทและค่าปรับรายวันอีกไม่เกินวันละ 1 หมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่

การแจ้งให้ลูกค้าทราบการส่งข้อมูลให้บริษัทข้อมูลเครดิต

นอกจากการนำส่งข้อมูลของลูกค้าให้แก่บริษัทข้อมูลเครดิตแล้ว สมาชิกยังมีหน้าที่แจ้งให้ลูกค้าทราบถึงการส่งข้อมูลดังกล่าวใน 2 กรณี ดังนี้

กรณีที่ 1 การแจ้งให้ลูกค้าทราบการส่งข้อมูลให้บริษัทข้อมูลเครดิตครั้งแรก สมาชิกจะต้องแจ้งภายใน 30 วันนับแต่วันที่ส่งข้อมูลให้บริษัทข้อมูลเครดิต หากแจ้งไม่ทันสมาชิกสามารถขอขยายระยะเวลาต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิตได้ 1 ครั้ง ไม่เกิน 15 วัน โดยให้ยื่นคำขอเป็นหนังสือพร้อมชี้แจงเหตุผลหรือความจำเป็นต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิตก่อนครบกำหนดที่ต้องแจ้งลูกค้าทราบไม่น้อยกว่า 3 วันทำการ ทั้งนี้ กฎหมายกำหนดให้มีผลเป็นการอนุญาตหากพ้นกำหนด 3 วันทำการนับแต่วันที่สมาชิกยื่นคำขอ เว้นแต่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิตจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

กรณีที่ 2 การแจ้งให้ลูกค้าทราบการส่งข้อมูลให้บริษัทข้อมูลเครดิตเพิ่มเติมในครั้งต่อ ๆ ไป กฎหมายกำหนดว่าข้อมูลของลูกค้าในปีบัญชีใดหรือปีปฏิทินใดที่สมาชิกส่งให้บริษัทข้อมูลเครดิต สมาชิกต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบภายในปีบัญชีหรือปีปฏิทินนั้น หรือไม่เกินกว่า 30 วันนับแต่วันสิ้นปีบัญชีหรือวันสิ้นปีปฏิทินนั้น โดยอาจแจ้งทุกครั้งที่มีการส่งข้อมูลหรือรวบรวมแจ้งในคราวเดียวกันก็ได้ หากแจ้งไม่ทันเวลาที่กฎหายกำหนด สมาชิกสามารถขอขยายระยะเวลาต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิตได้ โดยต้องขอขยายก่อนครบกำหนดที่ต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบไม่น้อยกว่า 3 วันทำการ พร้อมแจ้งเหตุผลหรือความจำเป็นในการขอขยายระยะเวลาอย่างชัดเจน และหากจะเปลี่ยนแปลงรอบการแจ้งการส่งข้อมูลดังกล่าวต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าด้วย

กรณีที่สมาชิกไม่แจ้งให้ลูกค้าทราบหรือไม่แจ้งภายในระยะเวลาที่กล่าวข้างต้น สมาชิกจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

การเรียกดูข้อมูลของลูกค้าจากบริษัทข้อมูลเครดิต

สมาชิกสามารถเรียกดูข้อมูลของลูกค้าเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์สินเชื่อและการออกบัตรเครดิตได้ โดยลูกค้าต้องให้ความยินยอมแก่บริษัทข้อมูลเครดิตในการเปิดเผยข้อมูลก่อนเสมอ ยกเว้นกรณีทบทวนสินเชื่อ หรือการต่ออายุสัญญาสินเชื่อและสัญญาบัตรเครดิต ซึ่งลูกค้าเคยให้ความยินยอมไว้แล้ว สมาชิกสามารถเรียกดูข้อมูลของลูกค้าได้โดยไม่ต้องขอให้ลูกค้าให้ความยินยอมอีก

การปฏิเสธการให้สินเชื่อหรือขึ้นค่าบริการแก่ลูกค้าอันเนื่องจากข้อมูลเครดิต

ในกรณีที่สมาชิกมีการปฏิเสธการให้สินเชื่อ หรือมีการขึ้นค่าบริการกับลูกค้า ซึ่งเป็นผลจากการที่สมาชิกได้รับรู้ข้อมูลเครดิตของลูกค้า กฎหมายกำหนดให้สมาชิกต้องมีหนังสือแจ้งลูกค้าทราบถึงเหตุผล ในการปฏิเสธการให้สินเชื่อหรือการขึ้นค่าบริการนั้น ซึ่งลูกค้าสามารถนำหนังสือดังกล่าวไปแสดงต่อบริษัทข้อมูลเครดิตเพื่อขอตรวจสอบข้อมูลของตนโดยไม่เสียค่าบริการได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือปฏิเสธสินเชื่อ ทั้งนี้ หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม มีบทกำหนดโทษปรับไม่เกิน 3 แสนบาทและปรับรายวันอีก ไม่เกินวันละ 1 หมื่นบาทจนกว่าจะปฏิบัติถูกต้อง

หมายเหตุ ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป คำนิยามของ "สมาชิก" ตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ. 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม นอกจากประกอบด้วยสถาบันการเงิน แล้วจะครอบคลุม ถึงผู้ประกอบธุรกิจเป็นตัวกลางในการจัดหาสินเชื่อที่ได้รับอนุญาตหรือได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานที่กำกับดูแลด้วย โดยสมาชิกประเภทผู้ประกอบธุรกิจเป็นตัวกลางฯ จะมีหลักเกณฑ์ที่ต้องปฏิบัติ แตกต่างจากสมาชิกประเภทสถาบันการเงินบางประการด้วย